wind ภูเก็ต;ผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลม ที่ ภูเก็ต "ระบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลม ที่ ภูเก็ต_files/css1.css" type=text/css rel=stylesheet> <3619;ะบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลม ที่ ภูเก็ต_files/staticlogo.js">

ระบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลม ที่ ภูเก็ต


ระบบผลิตไฟฟ้าร่วม เซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลม แบบต่อเข้าระบบจำหน่ายไฟฟ้า ได้ดำเนินการติดตั้ง และปฏิบัติการ ในประเทศไทย โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 เป็นต้นมา ข้อมูลทางเทคโนโลยีของระบบ ประสบการณ์และแนวโน้มในอนาคต ได้รวบรวมไว้ในบทความนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะ ของระบบก็ได้มีการรวบรวมไว้ เพื่อประเมินผลที่เพิ่มเติมต่อไป

บทนำ

เนื่องมาจากวิกฤตการณ์น้ำมัน ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมกับความวิตกกังวล เกี่ยวกับปัญหา สิ่งแวดล้อม ทำให้การพัฒนาการใช้ประโยชน์จาก เซลล์แสงอาทิตย์และพลังงานลม ได้ถูกรวมเข้ากับโปรแกรมการศึกษา เกี่ยวกับพลังงานทดแทน และเทคโนโลยีการแปรรูปพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้าแบบสองวงจร ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ การเผาไหม้แบบฟลูอิดไดซ์เบด (Fluidized Bed Combusion) และเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) เข้าไว้ในโปรแกรมของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วย

ในบรรดาการใช้ประโยชน์จาก เซลล์แสงอาทิตย์เพื่อการผลิตไฟฟ้า ทั้งหมด เช่น ไฟสัญญาณบนเสาแรงสูง ทุ่นในอ่าง เก็บน้ำ ไฟแสงสว่าง วิทยุสื่อสาร สถานีทวนสัญญาณ และเพื่อการทดสอบ ยังมีระบบสาธิต ผลิตไฟฟ้าร่วมแบบต่อเข้า ระบบไฟฟ้า อยู่ 3 แห่ง

หนึ่งในจำนวนโรงไฟฟ้าสาธิตทั้งสามนั้น ใช้ระบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลม ตั้งอยู่ที่เกาะภูเก็ต ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งที่เหมาะสม สำหรับการทดลอง ข้อมูล เกี่ยวกับการทำงานได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ ในเครื่องบันทึกแบบ Data Logger ซึ่งสามารถนำมาประเมินผลได้ในภายหน้า

ลักษณะทั่วไป

ระบบผลิตไฟฟ้าร่วม เซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลม ขนาดเล็กแห่งนี้ เป็นงานสาธิตเข้าระบบจำหน่าย ของการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค ซึ่ง กฟผ. ได้ดำเนินการอยู่ที่บริเวณ สถานีพลังงานทดแทนพรหมเทพ ที่เกาะภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 900 กิโลเมตร ที่สถานีฯ นี้ซึ่งแต่เดิม ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ มาก่อน แต่ด้วยแรงลมตะวันตกเฉียงใต้ จากทะเล อันดามันในช่วงมรสุม อีกทั้งความเข้มแสงอาทิตย์ ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี แหลมพรหมเทพนี้ จึงเป็นที่ตั้ง สมบูรณ์แบบ สำหรับการทดลองเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลมดังกล่าว

งานที่สถานีทดลองแห่งนี้ ดำเนินการทั้งหมดโดย กฟผ. ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้ถูกรวบรวมตั้งแต่ เสร็จสิ้นการติดตั้ง ในกลางปี 2529 อย่างไรก็ตามการทดลองแบบ ต่อกับระบบจำหน่ายของ การผลิตไฟฟ้ากระแสสลับ จากกังหันลม (ที่ใช้ Induction Generator) และเซลล์แสงอาทิตย์ (ซึ่งใช้ Line Commulated Inverters) ได้เริ่มขึ้นในปลายปี พ.ศ.2533 เนื่องมาจากความล่าช้า ในการติดตั้งระบบจำหน่ายขนาด 33 กิโลโวลท์ มายังสถานีพลังงานทดแทน พรหมเทพ

ระบบเซลล์แสงอาทิตย์

ระบบเซลล์แสงอาทิตย์นี้ ประกอบด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 220 แผง รวมกำลังผลิตทั้งหมด 11.34 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นกระแสไฟฟ้าได้โดยตรง ไฟฟ้ากระแสตรงจะถูกสะสม ไว้ในชุดแบตเตอรี่ และจะถูก เปลี่ยนเป็นไฟฟ้า กระแสสลับป้อนให้กับระบบจำหน่าย โดยผ่านเครื่องแปลงกระแส (Inverter) ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบ คือ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ เครื่องแปลงกระแส ชุดควบคุม และชุดเก็บข้อมูล

แผงเซลล์แสงอาทิตย์

แผงเซลล์แสงอาทิตย์มีอยู่ทั้งหมด 220 แผง จากแหล่งผลิตทั้งหมด 8 บริษัท เป็นเทคโนโลยีแบบซิลิกอนผลึกเดี่ยว (Single Crystalline Silicon) 5 บริษัท และที่เหลือจะเป็นเทคโนโลยีซิลิกอนแบบหลายผลึก (Poly-Crystalline Silicon) รวมกำลังผลิตทั้งหมด 11.34 กิโลวัตต์ มีการเชื่อมต่อกันเป็น 11 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยแผงประมาณ 20 แผง จากแหล่งผลิตเดียวกัน เชื่อมต่อกันแบบอนุกรมเป็นเส้นเดียว และมีระดับศักดาไฟฟ้าขนาด 350-400 โวลท์กระแสตรง และมีกระแสไฟฟ้าขนาดตั้งแต่ 2.5 ถึง 3.0 แอมแปร์ ที่ความเข้มแสงอาทิตย์ 1,000 วัตต์ต่อตารางเมตร แต่ละชุด ถูกเชื่อมต่อกันแบบขนานในที่สุด

แบตเตอรี่
ระบบแบตเตอรี่ มีหน้าที่สะสมไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งผลิตได้จากเซลล์แสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ที่ใช้นี้เป็นกรดตะกั่ว ที่มีแอนติโมนีต่ำ และตั้งอยู่กับที่ (Lead Low Antimony Stationary Battery) มีอยู่ทั่งหมด 120 ลูก แต่ละลูกมีแรงดันไฟฟ้านอมินอล (Nominal Voltage) เท่ากับ 2 โวลท์ ต่อเข้ากันเป็นอนุกรม เพื่อที่จะได้แรงดันไฟฟ้าขนาด 240 โวลท์กระแสตรง (Nominal) ซึ่งจะมีความจุทั้งหมด 600 แอมแปร์-ชั่วโมง

เครื่องแปลงกระแส
ไฟฟ้ากระแสตรงที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยผ่านเครื่องแปลงกระแส (Inverter) แบบ 3 เฟส 416 โวลท์ กระแสสลับ 50 Hz ขนาด 15 kVA เครื่องแปลงกระแสนี้ ได้นำมาใช้เชื่อมโยงกับระบบ จำหน่ายท้องถิ่นขนาด 33 กิโลโวลท์ 3 เฟส โดยผ่านหม้อแปลงไฟฟ้า

ชุดควบคุมและเก็บข้อมูล
กระแสไฟฟ้าที่ถูกประจุไว้ ในแบตเตอรี่หรือปล่อยไปสู่ภาระ (Load) โดยผ่านเครื่องแปลงกระแส จะถูกควบคุมโดย ชุดควบคุมประจุไฟฟ้า (Charge/Discharge Controller) ชุดควบคุมนี้จะปล่อยกระแสไฟฟ้าไปยัง Dummy Load เมื่อชุดแบตเตอรี่นั้นอยู่ในสภาวะ มีประจุไฟฟ้าอยู่เต็มที่ หรือในทางตรงกันข้าม จะตัดภาระออกจากชุดแบตเตอรี่ เมื่ออยู่ใน สภาวะที่มีประจุอยู่น้อย ระบบควบคุมนี้มีไว้เพื่อ ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
ในตัวเครื่องแปลงกระแสเอง ก็มีชุดควบคุมการเชื่อมโยงกับ ระบบจำหน่ายอยู่ในตัวด้วย ซึ่งจะควบคุมความถี่ และแรงดันไฟฟ้า ให้เหมาะสมกับสภาวะ ของระบบจำหน่าย และตามกำลังผลิตที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้วงจรควบคุมนี้ ยังสามารถที่จะเริ่ม หรือหยุดการทำงานได้เอง ในกรณีที่สภาวะของระบบไฟฟ้าไม่ปกติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ควบคุมเพิ่มเติมสำหรับเครื่องแปลงกระแส
ชุดเก็บข้อมูล มีทั้งแบบอนาล็อก ซึ่งแสดงผลในลักษณะกราฟ และแบบเป็นตัวเลขใน Data Logger ซึ่งติดตั้งไว้ เพื่อบันทึกข้อมูลดิบ ที่เกี่ยวข้องในระบบการสาธิตนี้ และนำข้อมูลไปประเมินผลต่อไป

ชุดกังหันลม
ชุดกังหันลมที่ผลิตไฟฟ้าร่วมกับเซลล์แสงอาทิตย์ ต่อเข้าระบบจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันใช้งานอยู่ 3 เครื่อง ได้แก่ กังหันลมขนาด 10 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง เป็นกังหันลมที่ผลิตไฟฟ้ากระแสตรง เพื่อประจุแบตเตอรี่ 240 โวลท์ ชุดเดียวกับเซลล์แสงอาทิตย์ กังหันลมเครื่องนี้มีใบกังหันลม 3 ใบ เป็นแบบแกนหมุนอยู่ในแนวนอน ความเร็วรอบ ของกังหันประมาณ 350 รอบต่อนาที ที่ความเร็วลมประมาณ 12.1 เมตรต่อวินาที ความเร็วลมที่สามารถ เริ่มผลิต กระแสไฟฟ้าได้ 3.1 เมตรต่อวินาที ความสูงของเสากังหันลม 20 เมตร กังหันลมชุดนี้ติดตั้งใช้งาน เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 กังหันลมอีกเครื่องหนึ่ง เป็นกังหันลมขนาด 150 กิโลวัตต์ เป็นกังหันลมที่ผลิตไฟฟ้า และเชื่อมต่อกับระบบจำหน่าย ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง กังหันลมเครื่องนี้มีใบกังหันลม 3 ใบ เป็นแบบแกนหมุนอยู่ในแนวนอน ความเร็วรอบ ของกังหันลมประมาณ 38 รอบต่อนาทีกำลังผลิตไฟฟ้า สูงสุดที่ความเร็วลมประมาณ 13 เมตรต่อวินาที ความเร็วลม ที่สามารถเริ่มผลิต กระแสไฟฟ้าได้ 4 เมตรต่อวินาที ความสูงของเสากังหันลม 31 เมตร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นชนิด 3 เฟสแบบ Induction 400 โวลท์ 50 Hz กังหันลมเครื่องนี้ติดตั้งใช้งาน เมื่อเดือนกรกฏาคม 2539

ประสบการณ์

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานของโรงไฟฟ้าสาธิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพอสรุปได้ดังนี้
ไม่มีปัญหาทางเทคนิค ในการป้อนกระแสไฟฟ้าเข้ากับระบบจำหน่าย ด้วยชุดผลิตกระแสไฟฟ้า จากแหล่งพลังงาน 2 ประเภทที่ต่างกัน
เซลล์แสงอาทิตย์เท่าที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงทำงานได้ปกติ และจากผลการวิเคราะห์ ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า มี ประสิทธิภาพลดลงแต่อย่างไร
การทำงานของแบตเตอรี่แบบ Lead Low Antimony Stationary ยังเป็นที่น่าพอใจ แต่มีข้อแม้ว่ายังต้องมีการ บำรุงรักษาตามวาระอยู่บ้าง
เครื่องแปลงกระแส ได้มีการดัดแปลงไปบ้างเล็กน้อย เช่น มีการติดตั้งพัดลม เพื่อเพิ่มระบบการระบายอากาศขึ้น ในเครื่องแปลงกระแส
เนื่องมาจากการมีเนื้อที่ที่จำกัดบนยอดเขา กังหันลมตัวใหญ่จึงต้องติดตั้ง ใกล้กับหน้าผาชัน อันเป็นเหตุให้กังหัน ลมต้องเผชิญกับลมแปรปรวน จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุ ของการสั่นสะเทือน และทำความเสียหาย ให้แก่ ชิ้นส่วนกังหันลมบ่อยครั้ง ซึ่งทำให้ต้องมีการดัดแปลง และปรับปรุงกลไกต่างๆ ให้มีการทำงานดีขึ้น เช่น Shock
Absorbers ระบบ เบรก Turntable Bearing และความแข็งแรงของเสากังหัน
เสาไฟฟ้าที่ผลิตได้จากกังหันลม ป้อนให้กับระบบจำหน่าย มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่บ่อยครั้ง อันเนื่องมาจาก ความไม่สม่ำเสมอ ของความเร็วและทิศทางของลม ดังนั้น ถ้ามีการติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ขึ้น ก็ไม่ควรที่จะละเลย ผลกระทบนี้

อื่นๆ

จุดประสงค์ที่สำคัญ ของระบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลมนี้ เพื่อต้องการสาธิต และประเมินผล ในทางเทคนิค ตลอดจนการเตรียมพร้อม สำหรับความต้องการในภายภาคหน้า เพราะฉะนั้นประโยชน์ที่สำคัญ ของระบบ นี้ก็คือการสะสมข้อมูล และความชำนาญงาน กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ และส่งให้กับระบบจำหน่าย เพื่อใช้ในท้องถิ่น กระแสไฟฟ้าจำนวนเล็กน้อย ที่ได้จากเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลมจะมีประโยชน์ สำหรับท้องที่เล็กๆ ในบริเวณนั้น ซึ่งอยู่ปลายสายส่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลา ที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ถ้าระบบนี้ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะเป็นแม่แบบ สำหรับผู้ที่สนใจ ในระบบนี้จวบจนขณะนี้ ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะมีปัญหา ทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญเกิด นอกเสียจากปัญหา ทางเสียง ซึ่งเกิดจากการหมุนของใบกังหัน

แนวทางในอนาคต

เพื่อให้เกิดความเข้าใจเทคโนโลยี เกี่ยวกับเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลมให้มากยิ่งขึ้น และเพื่อติดตามความ ก้าวหน้า ของระบบผลิตไฟฟ้าร่วมนี้ ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ควรจะมีการสาธิตในระบบ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในลักษณะความร่วมมือ กับต่างประเทศที่มีประสบการณ์ ทางด้านนี้ต่อไปในอนาคต และเพื่อให้เป็นไปตามหน้าที่ รับผิดชอบของ กฟผ. จึงคงเน้นการผลิตไฟฟ้าแบบ เชื่อมโยงกับระบบสายส่ง เช่นเคยถ้าระบบนี้ ประสบความสำเร็จในการสาธิต ประกอบกับ ปัญหาทางสิ่งแวดล้อม และราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญ ในอนาคตการผลิตไฟฟ้า โดยระบบกังหันลมและเซลล์แสงอาทิตย์ ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ อาจเป็นจริงในภายภาคหน้า

สรุป

จากประสบการณ์การทำงาน ตั้งแต่ได้มีการติดตั้งระบบ ผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันขึ้นใน ประเทศไทย ความยุ่งยากเกี่ยวกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และปัญหาใหญ่ๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่ และเครื่องแปลงกระแส ในช่วงการ ใช้งานที่ผ่านมายังไม่ค่อยพบ อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบบางส่วน ของชุดกังหันลมทางด้านกลไก ได้มีการดัดแปลง อยู่บ้างข้อมูล ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับปฏิบัติงาน ของระบบเซลล์แสงอาทิตย์ ได้ถูกบันทึกไว้ใน Data Logger และ ประเมินผลอย่างได้ผล เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่า การทำงานของระบบกังหันลม จะประสบปัญหาบ้าง แต่ประสบการณ์ และความรู้ที่ได้จาก การสาธิตในครั้งนี้ นับเป็นสิ่งที่มีค่า และมีประโยชน์ต่อการพัฒนา กังหันลมต่อไป และควรจะได้ รับการส่งเสริมมากกว่านี้ ในอนาคต

กังหันลม

หน้าแรก | เซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารศาลากลางจังหวัด | พลังงานความร้อนใต้พิภพ | โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพฝาง
สถานีพลังงานแสงอาทิตย์คลองช่องกล่ำ | ระบบผลิตไฟฟ้าร่วมเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลมที่ภูเก็ต
โครงการเฉลิมพระเกียรติระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ | โครงการสาธิตระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน
เครื่องสกัดสารกำจัดศัตรูพืชโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ | ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์


กองพลังงานทดแทน สำนักงานวิจัยและพัฒนา
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย


ชุดอุปกรณ์สาธิตการเกิดลม

ถ้าเอ่ยคำว่า "ลม" คิดว่าทุก ๆ คน คงรู้จักว่าลมคืออะไร แต่จะมีใครบ้าง เข้าใจว่า ทำไมลมจึงเกิดขึ้นได้ และ เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุของการเกิดลมนั้น เมื่ออากาศได้รับความร้อนจะขยายตัว ทำให้ความหนาแน่น ของอากาศลดลง อากาศร้อนจึงลอยตัวสูงขึ้น ซึ่งเรียกว่า กระแสอากาศ อากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ จากบริเวณข้างเคียงจึงเคลื่อน เข้าแทนที่ การเคลื่อนที่ของอากาศอันเนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด ลม

ลม คือ อากาศที่เคลื่อนที่ในแนวขนานกับพื้นผิวโลก เราทราบว่าอากาศที่ร้อนกว่ามีความดันอากาศ หรือความ กดอากาศต่ำกว่า ส่วนอากาศที่เย็นกว่าจะมีความดันอากาศหรือความกดอากาศสูงกว่า อากาศจึงเคลื่อนที่จาก บริเวณที่มีความกดอากาศสูงกว่า อากาศจึงเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปยังบริเวณที่มีความกด อากาศต่ำ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ลมเกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ เช่น อากาศเหนือพื้นดิน และพื้นน้ำได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้ไม่เท่ากัน และก็คายความร้อนออกมาไม่เท่ากันด้วย จึงทำให้ อากาศมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เป็นสาเหตุทำให้เกิดลมบก และลมทะเล

อุปกรณ์ที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะอธิบายการเกิดลมได้อย่างชัดเจน โดยอาศัยหลอดไฟฟ้าแบบไส้กระแสสลับ AC 220 volt 100 watt เป็นตัวให้ความร้อน ซึ่งทำให้ใบกังหันลมหมุนได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน สามารถ นำไปเป็นอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ว่า ลมเกิดขึ้นมาได้อย่างไร


ตู้กล่องไม้อัด

โครงสร้างเป็นไม้อัดรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส พ่นสีดำภายนอก ฝาด้านบนสามารถเปิดออกได้ เพื่อสะดวกใน การถอดเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแบบไส้กระแสสลับ AC 220 volt 100 watt ด้วยสกรูเกลียวปล่อยที่มุมทั้งสี่ด้าน พร้อมกับเจาะรูที่ตู้กล่องไม้อัดทั้งด้านหน้าและด้านบน เพื่อติดท่อลมในแนวตั้งและแนวนอน ดังรูปที่ 1 และ 2


ท่อลม

เป็นวัสดุพลาสติก Acrylic ใสรูปทรงกระบอกกลวง เส้นผ่าศูนย์กลางภายในประมาณ 64 มิลลิเมตร ความหนา ของท่อ 3 มิลลิเมตร มีหน้าแปลนพลาสติก pvc เป็นตัวยึดท่อลมด้วยน้ำยาและหน้าแปลนพลาสติก pvc จะยึด ติดไว้กับตู้ไม้อัด ทั้งด้านหน้าและด้านบนด้วยสกรูเกลียวปล่อย ดังรูปที่ 1 และ 2


ตัวจับยึดใบกังหันลม

ทำด้วยวัสดุพลาสติก pvc ตรงกลางมี Terminal เป็นตัวรับแทนเพลาหมุนของใบกังหันลม ซึ่งสามารถปรับตัว ได้ และมีนัตล๊อคตำแหน่งใบกังหันลมให้อยู่ในตำแหน่งที่หมุนได้คล่องตัวที่สุด ดังรูปที่ 3


ฐานตู้กล่องไม้อัด

เป็นวัสดุพลาสติกท่อ pvc ขนาด 4 นิ้ว มีหน้าแปลนพลาสติก pvc เป็นฐานรองรับตู้กล่องไม้อัดพร้อมกับติด ขั้วหลอดไฟฟ้าแบบเกลียว ควบคุมด้วยสวิทช์ ปิด-เปิด และปลั๊กเสียบสายไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220 volt ดังรูปที่ 4


ปัญหาข้อเสนอแนะ

- ใบกังหันลมนั้นจะมีปัญหาของความเที่ยงตรง และได้ตำแหน่งอย่างสมดุล เพราะเมื่อประกอบเข้าไปใน ท่อลมแล้ว จะหมุนหนักข้างใดข้างหนึ่ง จะพบในกังหันลมที่ติดอยู่ในแนวนอน
- ความโตของกังหันลม ควรให้มีความโตใกล้เคียงกับเส้นผ่าศูนย์กลางภายในท่อลมพลาสติก Acrylic ใส มากที่สุด ให้มีระยะห่างประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร
- แกนเพลาหมุนของใบกังหันลม ควรให้เป็นมุมปลายแหลมทั้งสองด้าน เพื่อให้มีจุดสัมผัสน้อยที่สุด
- มุมที่ใบกังหันลม ควรอยู่ที่ประมาณ 8-10 องศา เพื่อให้ใบกังหันลมปะทะลมที่เข้าไปในท่อลมได้เต็มที่
- วัสดุที่ใช้ทำใบกันหันลม ควรเป็นวัสดุอลูมิเนียม เพราะมีคุณลักษณะที่เบากว่าวัสดุอื่น ๆ
- หลอดไฟฟ้าแบบไส้ จะต้องอยู่ตรงตำแหน่งของท่อลมและปลายของหลอดไฟฟ้าแบบไส้ให้อยู่ตรงท่อลม ในแนวตั้ง เพราะลมจะพัดเข้ามาในแนวนอนออกไปในแนวตั้ง
- ในกรณีที่ต้องการให้ใบกังหันลมหมุนเร็วขึ้น ก็ต่อท่อลมในแนวตั้งให้มีความสูงมากขึ้น

กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน (พพ.)

  • ติดตั้งระบบสูบน้ำด้วยกังหันลม ณ พื้นที่แปลงเกษตรบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเจ๊ก ห้วยน้ำโจน และสระน้ำซับอื่นๆ ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จ.เพชรบุรี จำนวน 3 ระบบ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในประเทศ เป็นกังหันลมแบบหลายใบ ขนาดความสูง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง14 ฟุต จำนวน 30 ใบ ปั๊มน้ำแบบลูกสูบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5 นิ้ว และมีระยะชัก 7 นิ้ว เนื่องจากพลังงานลมไม่มีช่วงเวลาที่แน่นอน จึงต้องมีหอถังสูงขนาด 12 เมตร เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในการให้น้ำกับแปลงเกษตร ที่ใช้แบบหัวฉีดย่อยหรือน้ำหยด โดยสูบน้ำได้เฉลี่ยวันละ 15-20 ลบ.ม. ต่อวัน
  • ระบบสูบน้ำด้วยกังหันลม